ฟุตบอลโลก GROUP B อังกฤษ vs อิหร่าน
วันจันทร์ 21 พฤศจิกายน 2565 เวลา 20:00
สนาม : คาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดี้ยม, ประเทศกาตาร์ ความจุ (ที่นั่ง) 40,000
สถิติที่เคยพบกัน
ทั้งสองที่ไม่เคยเจอกันมาก่อน
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด ของทั้ง 2 ทีม
อังกฤษ (England)
26/09/22 เสมอ เยอรมนี 3-3 (เหย้า) ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก
23/09/22 แพ้ อิตาลี 0-1 (เยือน) ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก
14/06/22 แพ้ ฮังการี 0-4 (เหย้า) ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก
11/06/22 เสมอ อิตาลี 0-0 (เหย้า) ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก
07/06/22 เสมอ เยอรมนี 1-1 (เยือน) ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก
อิหร่าน (Iran)
26/09/22 เสมอ เยอรมนี 3-3 (เหย้า) ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก
23/09/22 แพ้ อิตาลี 0-1 (เยือน) ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก
14/06/22 แพ้ ฮังการี 0-4 (เหย้า) ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก
11/06/22 เสมอ อิตาลี 0-0 (เหย้า) ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก
07/06/22 เสมอ เยอรมนี 1-1 (เยือน) ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก
เส้นทางสู่ฟุตบอลโลก ของทีมชาติ อังกฤษ
อังกฤษปัจจุบันฟีฟ่าแรงกิ้งอยู่อันดับที่ 5 ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายทั้งหมด 16 ครั้งรวมรอบนี้ และไปถึงแชมป์โลกเมื่อปี 1966 โดยอังกฤษนั้นผ่านการเข้ามารอบสุดท้ายได้ ด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม ไอ ซึ่งก่อนที่จะเข้าสู่รอบสุดท้ายครั้งนี้ ทีมชาติอังกฤษนั้นได้เล่นในรายการ ยูฟ่าเนชั่นส์ลีก แต่ผลก็ไม่ได้เป็นดังหวัง ด้วยการจบเป็นบ๊วย ของกลุ่ม แข่งหกนัดมีเพียงแค่สามคะแนนเท่านั้น ทำให้ต้องตกจากลีก A ลงไป ลีก B ในรายการนี้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ แกเร็ธ เซาธ์เกต เป็นอย่างมาก
เส้นทางสู่ฟุตบอลโลก ของทีมชาติ อิหร่าน
ซึ่งผู้เล่นที่เซาธ์เกตนั้น เรียกมาติดทีมชุดนี้ ที่น่าจับตามองคือ จู๊ด เบลลิงแฮม กองกลางของทีมโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ผู้เล่นดาวรุ่งวัยเพียงสิบเก้าปี เป็นแกนหลักสำคัญให้กับทีมชาติอังกฤษในยุคนี้ และเป็นครั้งแรก ในฟุตบอลโลกของเขาอีกด้วย อีกหนึ่งคนที่น่าจับตามองคือ ฟิล โฟเด้น แนวรุกคนสำคัญจากค่ายแมนเชสเตอร์ซิตี้ แล้วคนอื่นอีกมากมายอย่าง แฮรี่ เคน กองหน้าคนสำคัญ และรวมไปถึงปีกตัวจี๊ดอย่าง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
ส่วนทางฝั่งอิหร่านนั้นแรงกิ้งฟีฟ่าอยู่อันดับที่ 20 โดยผ่านการเข้าสู่รอบสุดท้ายของฟุตบอลโลกมาแล้วถึงหกครั้ง โดยที่น่าสนใจคือโค้ชของทีม อย่าง คาร์ลอส เคยรอซ ผู้ที่เคยเป็นอดีตมือขวาของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และเคยเป็นอดีตกุนซือทีมชาติโปรตุเกส โดยเขานั้น พาทีมชาติอิหร่านเข้าสู่บอลโลก รอบสุดท้ายสองครั้งติด ก่อนที่เจ้าตัวนั้นจะกลับมารับงานคุมทีมชาติอิหร่านอีกครั้ง ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา พาทีมจบอันดับที่หนึ่ง ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชียรอบที่สาม ซึ่งมี อันดับที่เหนือกว่าเกาหลีใต้
โดยนักเตะที่น่าจับตามองของทางฝั่งอิหร่าน เป็น ซาดาร์ อัซมูน กองหน้าดาวยิงวัย 27 ปีที่แจ้งเกิดกับสโมสร เซนิตเซนต์ปีเตอร์เบิร์กทีมในลีกสูงสุดของรัสเซีย ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทัพทีมห้างยาอย่างไบเออร์เลเวอร์คูเซ่นในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ฉายาของเขาคือ เลวานดอฟสกี้ แห่ง อิหร่าน โดยปัจจุบันนั้นเจ้าตัวเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลอันดับ 3 ของทีมชาติอิหร่าน ลงเล่นไป 65 นัดยิงได 41 ประตู
สำหรับสถิติทั้งคู่นั้นไม่เคยเจอกันมาก่อน ในรายการไหนสักรายการเดียว คิดว่าเกมนี้ อังกฤษน่าจะเป็นฝ่ายบุก และเปิดเกมเพื่อต้องการ 3 แต้ม ส่วนทางฝั่งอิหร่านนั้น แน่นอนว่าทีมพวกเขานั้น อาจจะ เสียเปรียบทางฝั่งอังกฤษ แต่พวกเขาก็อาจจะสู้เหมือนกัน ที่ต้องมาสู้กับนักเตะชั้นนำในลีกของยุโรป อย่างอังกฤษ แล้วด้วยความคาดหวังที่สูงของทีมชาติอังกฤษนั้น น่าจะทำให้พวกเขานั้นเก็บชัย ไปอย่างแน่นอน